[30 MAR 2021]

ข้อควรรู้ก่อนซื้อแแอร์ ฉบับผู้ซื้อมือใหม่

          หลายๆ ท่านเคยใช้แอร์อย่างเดียว แต่ไม่มีโอกาสได้เลือกซื้อแอร์เอง เนื่องจากมีคนซื้อให้ มีแอร์แถมมาให้ เคยซื้อมานานมากแล้ว หรือจะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ เลยไม่รู้ว่าพอจะซื้อแอร์ใหม่ด้วยตัวเองจะเริ่มที่ตรงไหนดี จะถามคนขายก็กลัวจะเชียร์ให้ซื้อแบรนด์ที่คนขายอยากจะขาย วันนี้เราเลยมาบอกข้อมูลที่ควรจะรู้ก่อนสั่งซื้อแอร์ค่ะ เตรียมจดเอาไว้เลย!

         -รู้ขนาดห้อง : ผู้ซื้อจะต้องรู้ขนาดห้องของตัวเองว่า ห้องของเรา กว้างกี่เมตร ยาวกี่เมตร เพื่อนำไปหาบีทียูที่เหมาะสมกับห้อง  ถ้าไม่รู้ขนาดห้องว่ากี่ตารางเมตร ให้ใช้ตลับเมตรวัดห้องเลยค่ะ อย่ากะๆ เอา ถ้าขนาดบีทียูแอร์ไม่ครอบคลุมห้อง มันจะไม่เย็นนะคะ (อ่านบทความ : สูตรคำนวณ BTU แอร์แบบง่ายๆ ใช้ได้ทุกห้อง)

         -รู้ว่าต้องการความเย็นประมาณไหน : บางคนไม่ชอบแอร์เย็นมากก็ไม่ต้องเผื่อบีทียูแอร์มากๆ หากคำนวณได้ 15,000 บีทียู แต่ใช้ 13,000 บีทียูก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่บางคนชอบเย็นจัดๆ ถ้าคำนวณว่าได้ 18,000 บีทียู ก็เผื่อเป็น 20000-24000 บีทียู ได้เลยค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากให้กะบีทียูให้พอดีกับห้องก่อนที่จะใช้บีทียูต่ำๆ นะคะ เพราะฤดูร้อนบ้านเราดุเดือด เดี๋ยวจะร้อนอารมณ์เสียซะก่อน

          -รู้ว่าควรจะเผื่อบีทียูแอร์ไหม : ต่อจากข้อที่แล้ว หากเป็นสถานที่รับแดด คนเยอะ หรือมีเครื่องที่ให้ความร้อนมากๆ เราควรจะเผื่อบีทียูเอาไว้ ไม่อยากให้ประหยัดเพราะหากแอร์ควรต้องใช้ 36,000 บีทียู แต่เราเน้นประหยัดไว้ก่อนเป็นใช้งานเหลือ 24,000 บีทียู ขนาดต่างกันค่อนข้างมาก นอกจากบริษัทแอร์จะไม่รับประกันเพราะบีทียูไม่ครอบคลุมห้องแล้ว แอร์จะเสียเร็วและไม่เย็นอีกด้วย เหลือดีกว่าขาดนะคะ

         -รู้ว่าแอร์มีประเภทไหนบ้าง : หลายคนยังติดพูดจากแอร์ติดผนังเป็นแอร์แขวนอยู่เลย แอร์แต่ละประเภทมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันค่ะ ผู้ซื้อต้องรู้ก่อนว่าแอร์แบบไหนเหมาะกับห้องนอน ห้องนั่งเล่น ออฟฟิศ ร้านอาหาร หรือโรงงาน ที่เราต้องรู้เพราะแอร์แต่ละอย่างแตกต่างทั้งรูปทรง การกินไฟ การใช้งาน และฟังก์ชั่นต่างๆ ค่ะ 

         -รู้ข้อจำกัดของแอร์ : แอร์ยิ่งขนาดบีทียูมาก ยิ่งมีเสียงดัง ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายคนเคยใช้แอร์บ้านขนาด 9,000 หรือ 12,000 บีทียู ที่ติดห้องนอน แอร์ขนาดเล็กเสียงก็จะไม่ดังมาก แต่พอมาเป็น 30,000 บีทียูขึ้นไป ถือเป็นแอร์ขนาดกลางที่ใช้ในสำนักงานพื้นที่กว้างขึ้น แอร์จะมีเสียงถือเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะเครื่องใหญ่ ง่ายๆ ลองเทียบรถเก๋งกับรถบรรทุกดูค่ะ ว่าใครดังกว่ากัน นอกจากจะดังยิ่งกว่าโรงสีข้าว กรณีนั้นอาจมีปัญหาในตอนติดตั้งหรืออุปกรณ์เสีย ให้แก้ไขค่ะ ยิ่งเป็นขนาดแสนบีทียู บอกเลยดังมากๆ แต่ส่วนใหญ่จะติดตั้งในโรงงาน ดังเจอดังกว่าก็อาจจะไม่ได้สนใจเท่าไหร่ค่ะ

         -รู้ระบบแอร์ : แอร์ทั่วๆ ไป คือแอร์ที่ใช้ระบบน้ำยาทำความเย็นค่ะ โดยน้ำยาในปัจจุบันจะมี R410A และ R32 เป็นหลัก 2 ตัวนี้ต่างกันไม่มาก สามารถเลือกได้เลยค่ะ (อ่านบทความ : มาทำความรู้จักน้ำยาแอร์รุ่นใหม่ R32 กัน!) แต่! ลูกค้าบางคนไม่รู้ว่าแอร์มีระบบน้ำเย็น เรียกว่า แอร์แฟนคอยล์น้ำเย็น (ใช้น้ำเย็นทำความเย็น) พอเห็นราคาแอร์ประเภทนี้ บอกว่าถูกจังเลย จะซื้อตัวนี้ไปใช้ ไม่ได้นะคะ เขามีแต่แฟนคอยล์ ไม่มีคอนเด็นซิ่งมาให้ ถ้าเป็นแอร์บ้าน แอร์สำนักงาน ร้านอาหาร ทั่วไปใช้แอร์ระบบน้ำยาถูกต้องแล้วค่ะ แอร์ระบบน้ำเย็นจะต้องมีเครื่องทำน้ำเย็นอีก ถ้าซื้อของแบรนด์ราคาสูงกว่าแอร์น้ำยาแน่นอนค่ะ เพราะเอาไปใช้กับอาคารใหญ่ๆ ตัวเครื่องส่วนมากขนาดใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ

         -รู้จักระบบแอร์ธรรมดาและอินเวอร์เตอร์ : เวลาเทียบราคา มักจะมีการเทียบแอร์รุ่นธรรมดากับรุ่นอินเวอร์เตอร์ ข้อสรุปของความต่างกันอย่างง่ายที่สุดคือ รุ่นอินเวอร์เตอร์ ประหยัดไฟมากกว่า แต่ราคาแพงกว่า รุ่นธรรมดา ลองพิจารณาดูว่าเราต้องการแอร์ราคาถูก หรือค่าไฟถูกค่ะ (อ่านบทความ : แอร์ระบบ INVERTER กับ FIXED SPEED แบบไหนดีกว่า?) 

         -รู้ระบบไฟ : แอร์ขนาดตั้งแต่ 30,000 บีทียูขึ้นไปมักจะมีระบบไฟให้เลือกระหว่าง 220V และ 380V เราจะต้องรู้ว่าบ้านของเรามีระบบไฟเท่าไหร่ โดยไฟบ้านทั่วไปจะอยู่ที่ 220V(1 เฟส) แต่บางบ้านสามารถใช้ 380V(3 เฟส) ได้ เวลาเลือกซื้อบ้านที่ใช้ 220V จะต้องใช้ 220V เท่านั้น แต่บ้านที่ใช้ 380V ได้ สามารถเลือกใช้ทั้ง 220V หรือ 380V ค่ะ

         -รู้จักประเภทของรีโมท : ปกติแล้วรีโมทจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือแบบไร้สาย(เหมือนรีโมททีวี หยิบไปวางไว้ที่ไหนก็ได้) และแบบมีสาย(รีโมทแปะติดผนัง ย้ายไม่ได้ นอกจากให้ช่างย้าย) ถ้าเป็นแอร์ติดผนังทุกรุ่นจะเป็นรีโมทแบบไร้สายค่ะ แต่ถ้าเป็นแอร์ตั้งแขวน แอร์แขวนใต้ฝ้า แอร์ฝังฝ้าสี่ทิศทาง แอร์เปลือย จะมีรีโมท 2 แบบให้เลือก ซึ่งราคาบางรุ่นก็จะต่างกันค่ะ (อ่านบทความ : ชุดควบคุมแอร์ รีโมทแอร์ มีแบบไหนบ้าง?)

         -รู้ว่าแอร์ราคาถูกเกินอาจไม่ใช่ของใหม่ : สินค้าแอร์ใหม่แต่ละยี่ห้อส่วนใหญ่ราคาจะใกล้เคียงกัน แต่หลายคนได้รับข้อเสนอแอร์ราคาถูกผิดปกติ นั่นอาจเพราะเป็นแอร์ที่ไม่มีแบรนด์ติดตลาดหรือเป็นแอร์เก่ามือสองก็ได้ ดังนั้นหากราคาถูกกว่าตลาดมากๆ ให้สอบถามผู้ขายก่อนนะคะ ว่าเป็นแอร์มือหนึ่งหรือมือสอง

          -รู้ว่าสถานที่ติดตั้งยากหรือง่าย : สถานที่ที่ติดตั้งยากส่วนใหญ่จะเป็นการติดตั้งของคอยล์ร้อน เช่น ไม่มีที่วางคอยล์ร้อนหรือที่วางเล็กมากและเป็นตึกสูง ช่างปีนเข้าออกลำบาก แบบนี้อันตรายต่อการติดตั้งมากค่ะ ก่อนให้ช่างเข้าติดตั้งควรแจ้งร้านค้าเพื่อให้เตรียมตัวการติดตั้งด้วยนะคะ ไม่งั้นเสียเวลาจริงๆ ค่ะ

          ข้อควรรู้ข้อต่างๆ สามารถนำไปใช้ได้ง่ายๆ ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ท่านสามารถอ่าบทความแอร์เรื่องอื่นๆ ได้ที่ สาระความรู้เรื่องแอร์

บทความเขียน โดย Min_J@networkaircool.com

( ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาบทความบนเว็บไซต์นี้ ไปวางบนเว็บไซต์อื่น )